เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [9. นวกนิบาต] 9. หลิททราคชาดก (435)
[74] ถึงเราก็กินเนื้อ ผลไม้ และข้าวที่ปรุงด้วยเกลือและน้ำนม
เรากินอาหารอันมีรสเลิศในหมู่มนุษย์
เหมือนผู้กล้าหาญ มีชัยชนะในสงคราม
ไฉนผิวพรรณของเราจึงไม่เป็นเช่นกับเจ้าเล่า นกจักรพากเอ๋ย
(นกจักรพากกล่าวว่า)
[75] เจ้ากินของที่ไม่บริสุทธิ์ โฉบเอาเมื่อเขาเผลอ
ชื่อว่าได้ข้าวและน้ำด้วยความลำบาก
กา เจ้าไม่ชอบผลไม้หรือเนื้อกลางป่าช้า
[76] นี่กา ผู้ใดได้ของกิน มาด้วยกรรมอันหยาบช้า
เมื่อเขาเผลอก็โฉบเอามากิน
ในภายหลัง ผู้นั้น ตนเองก็ติเตียน
และเขาถูกตนและผู้อื่นติเตียนแล้ว ย่อมละผิวพรรณและกำลัง
[77] หากว่าผู้ใดบริโภคของแม้น้อย แต่เป็นของเย็น
ไม่เบียดเบียนผู้อื่นด้วยกรรมที่ไม่หยาบช้า
ผู้นั้นย่อมมีทั้งกำลังและผิวพรรณในกาลนั้น
เพราะผิวพรรณทั้งปวงหามีเพราะอาหารเพียงอย่างเดียวไม่1
จักกวากชาดกที่ 8 จบ

9. หลิททราคชาดก (435)
ว่าด้วยจิตกลับกลอกเหมือนผ้าย้อมด้วยขมิ้น
(นางกุมาริกากล่าวกับดาบสหนุ่มว่า)
[78] พวกที่บำเพ็ญตบะอดกลั้นอยู่ในบ้านยังประเสริฐกว่าท่าน
ผู้อดกลั้นบำเพ็ญตบะอยู่ในเสนาสนะอันสงัดในป่า

เชิงอรรถ :
1 ผิวพรรณงามเพราะเหตุ 4 ประการ คือ (1) อาหาร (2) อากาศ (3) ความคิด (4) การงานที่ทำ
(ขุ.ชา.อ. 5/77/344)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :313 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [9. นวกนิบาต] 10. สมุคคชาดก (436)
(ดาบสหนุ่มถามดาบสผู้เป็นบิดาว่า)
[79] คุณพ่อ ลูกออกจากป่าไปสู่บ้านแล้ว
ควรจะคบหาคนมีศีลอย่างไร มีข้อปฏิบัติอย่างไร
ลูกถามแล้ว ขอพ่อจงบอกข้อนั้น
(ดาบสผู้เป็นบิดาตอบว่า)
[80] ลูกรัก ผู้ใดพึงทำให้ลูกเบาใจ
อดทนความคุ้นเคยของลูกได้
เชื่อฟังและอดกลั้นถ้อยคำของลูกได้
ลูกไปจากที่นี้แล้ว จงคบผู้นั้นเถิด
[81] ผู้ใดไม่ทำความชั่วทางกาย วาจา ใจ
ลูกไปจากที่นี้แล้ว จงดำรงตนอยู่เหมือนลูกในใส้ คบผู้นั้นเถิด
[82] อนึ่ง ผู้ใดประพฤติธรรม
แม้ประพฤติธรรมอยู่ก็ไม่ถือตัว
ลูกไปจากที่นี้แล้วจงคบผู้นั้น
ซึ่งมีปัญญาทำแต่กรรมอันบริสุทธิ์เถิด
[83] คนที่มีจิตกลับกลอกเหมือนลิง
รักง่ายหน่ายเร็วดุจผ้าที่ย้อมด้วยขมิ้น
ลูกรัก ถึงแม้ว่าพื้นชมพูทวีปทั้งสิ้นจะไร้มนุษย์
ลูกก็อย่าคบคนเช่นนั้นเลย
[84] คนที่มีจิตโกรธเหมือนอสรพิษ
ลูกจงเว้นให้ห่างไกล เหมือนคนเว้นหนทางใหญ่ที่เปื้อนคูถ
และเหมือนคนขับขี่ยานพาหนะเว้นหนทางที่ไม่เรียบ
[85] ลูกรัก เมื่อเข้าไปคบหาคนพาลอย่างสนิท
ก็จะเพิ่มพูนแต่ความฉิบหาย ลูกอย่าสมาคมกับคนพาลเลย
ขึ้นชื่อว่าการอยู่ร่วมกับคนพาลเป็นเหมือนการอยู่ร่วมกับศัตรูทุกเมื่อ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :314 }